ชุมชนบ้านปิยะมิตร 3 อำเภอเบตง จังหวัดยะลา

สภาพปัญหาของชุมชน

          ชุมชนบ้านปิยะมิตร 3 เป็นชุมชนของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ตั้งอยู่ที่ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2531 โดยกองทัพภาคที่ 4 ได้รับอนุมัติให้เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อจัดตั้งเป็นหมู่บ้านยุทธศาสตร์ชายแดนไทย – มาเลเซีย (ประกอบด้วย บ้านปิยะมิตร 1 – 5) โดยมีข้อตกลงในการร่วมกันป้องกันชายแดน และดูแลรักษาป่าต้นน้ำ
          บ้านปิยะมิตร 3 มีสภาพพื้นที่เป็นภูเขา มีน้ำอุดมสมบูรณ์ ฝนตกชุก ชาวบ้านจึงประกอบอาชีพการเกษตรเป็นหลัก ในระยะแรกชาวบ้านยังต้องหาบน้ำมาใช้ด้วยตนเอง ส่วนในพื้นที่สูงจะใช้เครื่องสูบน้ำ ต่อมาในปี พ.ศ. 2534 กรมชลประทาน และ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้ร่วมดำเนินงานจัดทำโครงสร้างพื้นฐานด้านแหล่งน้ำให้แก่ชุมชน โดยการสร้างฝายบ้านปิยะมิตร 3 และระบบท่อส่งน้ำ ชุมชนจึงได้อาศัยน้ำจากฝายบ้านปิยะมิตร 3 ในการทำเกษตรได้สะดวกยิ่งขึ้น แต่เมื่อใช้งานมาระยะหนึ่ง ประสบปัญหาท่อส่งน้ำชำรุดเนื่องจากแรงดันในพื้นที่สูง นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องการได้น้ำไม่เท่าเทียมกัน เนื่องจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สูงจะได้รับน้ำน้อยกว่า

    

จุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลง

          ชุมชนบ้านปิยะมิตร 3 เป็นชุมชนที่มีความสมัครสมานสามัคคีและมีระเบียบวินัยสูง คนในชุมชนจึงพร้อมใจที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาโดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ เมื่อมีปัญหาที่คนในชุมชนได้รับน้ำไม่เท่าเทียมกันเนื่องจากพื้นที่เป็นภูเขา ระดับน้ำไม่เท่ากัน ทำให้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ต่ำได้รับน้ำมากกว่าคนอยู่ในพื้นที่สูง จึงมีการตั้งกฎเกณฑ์ร่วมกันว่า ให้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สูงได้ใช้น้ำก่อน และคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ต่ำกว่า เมื่อใช้น้ำเสร็จแล้วจะต้องปิด เพื่อให้น้ำขึ้นไปในที่สูงได้ คนในชุมชนจะได้ใช้น้ำกันอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
          ส่วนปัญหาท่อส่งน้ำแตก หรือมีสภาพชำรุด ในระยะแรกชาวบ้านก็ได้ช่วยกันซ่อมแซมและบำรุงรักษาด้วยตนเอง แต่เมื่อมีการใช้งานนานยิ่งขึ้น เกิดการชำรุดถี่ขึ้น ชุมชนจึงคิดว่าจะต้องมีการเก็บค่าน้ำเพื่อนำมาใช้เป็นค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษา ซึ่งทุกคนในชุมชนก็ยินดีให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการจ่ายค่าบำรุง

การจัดการของชุมชน

          ชุมชนบ้านปิยะมิตร 3 มีการบริหารจัดการ โดยแบ่งหน้าที่รับผิดชอบด้านการดูแลบริหารจัดการน้ำ การดูแลรักษาป่าต้นน้ำ และการประกอบอาชีพ
          ด้านการดูแลและบริหารจัดการน้ำ มีการซ่อมแซมท่อส่งน้ำ ตามจุดที่พบการชำรุดเสียหาย โดยใช้เงินกองทุนที่เก็บจากค่าน้ำในชุมชน เพื่อเป็นค่าบำรุงรักษา ครัวเรือนละ 50 บาท ต่อเดือน นอกจากนี้ชุมชนยังร่วมกันขุดลอกตะกอนหน้าฝายปิยะมิตร 3 ทุกปี ปีละ 2 ครั้ง ซึ่งจะมีตะกอนทรายเป็นจำนวนมาก หลังการขุดลอก ชาวบ้านยังได้ทรายไปใช้ทำการก่อสร้าง หรือประโยชน์อื่นได้อีกด้วย

    

          ด้านการดูแลรักษาป่าต้นน้ำ มีการจัดกลุ่มลาดตระเวนตามแนวป่าทุกเดือน เพื่อดูแลป้องกันการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า และในการออกลาดตระเวนป่าแต่ละครั้ง กลุ่มลาดตระเวนยังได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ตามแนวพระราชดำริ ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 ประการด้วยทุกครั้ง

    

          ด้านการประกอบอาชีพ การเกษตรเป็นอาชีพหลักของชุมชน มีการทำแผนการเกษตร 3 ระยะ คือ ระยะยาว ได้แก่ สวนยางพารา จะปลูกในที่ห่างไกลแหล่งน้ำเพราะใช้เฉพาะน้ำฝน  ระยะกลาง (3-5 ปี) ได้แก่ ผลไม้ยืนต้นต่างๆ เช่น ส้ม ลองกอง ทุเรียน และ ระยะสั้น (30 วัน-1 ปี) ได้แก่ ผักต่างๆ เช่น มะละกอ กล้วย ผักน้ำ ผักบุ้ง ทำให้ชุมชนบ้านปิยะมิตร 3 มีผลผลิตทางการเกษตรตลอดทั้งปี และเป็นผลผลิตที่มีคุณภาพ ขายได้ราคาดี มีการรวมกลุ่มอาชีพต่างๆ เช่น กลุ่มปลูกผักปลอดสารพิษ กลุ่มปศุสัตว์ปิยะมิตร 3 เลี้ยงไก่เบตง เลี้ยงปลาจีน รวมทั้งทำเกษตรชีวภาพ ผลิตปุ๋ยชีวภาพเองจากเศษผักและหัวปลา

ผลสำเร็จ

หาน้ำได้
          ผลจากการดูแลรักษาป่าต้นน้ำเป็นอย่างดี ทำให้ชุมชนบ้านปิยะมิตร 3 มีแหล่งน้ำธรรมชาติ คือ ลำธารจากป่าต้นน้ำ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี และยังมีฝายบ้านปิยะมิตร 3 เป็นแหล่งเก็บกักน้ำสำคัญ ทำให้ชุมชนมีน้ำใช้เพียงพอตลอดทั้งปี

ใช้น้ำเป็น
          ชุมชนใช้น้ำจากฝายบ้านปิยะมิตร 3 ทำประปาภูเขา ปลูกผักน้ำ และเลี้ยงปลา น้ำจากแปลงผักน้ำ และบ่อเลี้ยงปลา ก็นำไปใช้ทำการเกษตรบริเวณพื้นที่ด้านล่าง ส่วนน้ำจากลำธารที่ไหลจากภูเขาหรือป่าต้นน้ำ จะเก็บเข้าสระน้ำ สำหรับเป็นแหล่งน้ำของศูนย์เรียนรู้ในชุมชน สำหรับน้ำเสียหรือน้ำใช้แล้วจากครัวเรือน จะนำเข้าบ่อพักน้ำเพื่อให้ตกตะกอน และยังมีการกรองด้วยหญ้าแฝก โดยใช้ถุงฟางใส่ดินทำเป็นคันบ่อ แล้วปลูกหญ้าแฝกในถุง เพื่ออาศัยรากหญ้าแฝกช่วยกรองอีกชั้นหนึ่งก่อนปล่อยน้ำไหลลงสู่ลำธาร

มีน้ำสำรอง
          ถึงแม้ชุมชนบ้านปิยะมิตร 3 จะมีน้ำเพียงพอตลอดทั้งปี แต่ชุมชนก็ยังสร้างแหล่งน้ำสำรองไว้เพื่อเป็นภูมิคุ้มกัน เช่น สระเลี้ยงปลาจีน สระเก็บกักน้ำจากลำธารบนภูเขา รวมทั้งมีการสร้างฝายชะลอน้ำตามลำธาร เพื่อเพิ่มแหล่งน้ำสำรองให้กับชุมชน

ระบบนิเวศ
          ชุมชนร่วมกันดูแลรักษาป่าต้นน้ำ ทำให้ระบบนิเวศของชุมชนบ้านปิยะมิตร 3 ยังคงอุดมสมบูรณ์ น้ำในลำธารใสสะอาด สามารถปลูกผักน้ำ ซึ่งเป็นผักที่เติบโตได้ดีในน้ำที่มีความสะอาด นอกจากนี้ชุมชนยังร่วมกันรักษาความสะอาดด้วยการขุดลอกตะกอนหน้าฝาย รวมทั้งปลูกหญ้าแฝกป้องกันการกัดเซาะหน้าดิน สำหรับบริเวณลำธารที่มีน้ำไหลตลอดเวลา มีการปลูกต้นสกน้ำ และต้นอ้อ ริมตลิ่งเพื่อป้องกันตลิ่งพัง

ขยายผลสู่ความยั่งยืน

ศักยภาพสู่ความยั่งยืน
          ชาวชุมชนบ้านปิยะมิตร 3 มีความสามัคคี และความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนภายในชุมชนเป็นอย่างดี มีศูนย์เรียนรู้ชุมชนเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชน และรวบรวมความรู้ที่ได้ไปเรียนรู้จากภายนอก อีกทั้งดูแลและให้ความสำคัญต่อการศึกษาแก่เยาวชนภายในชุมชน และปลูกฝังเยาวชนให้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมร่วมกับผู้ใหญ่ เช่น การลอกฝาย สร้างฝายชะลอน้ำ ปลูกหญ้าแฝก

การขยายเครือข่าย
          ชุมชนบ้านปิยะมิตร 3 มีเครือข่ายชุมชนกับหมู่บ้านต่างๆ ดังนี

        • กลุ่มปิยะมิตรไทย ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ประกอบด้วย บ้านปิยะมิตร 1 – 5
        • ชุมชนบ้านดอน ที่ร่วมใช้น้ำจากฝายบ้านปิยะมิตร 3 (คนในชุมชนบ้านดอน ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ทำให้ชุมชนบ้านปิยะมิตร 3 ตัดสินใจเลิกเลี้ยงหมู เพื่อไม่ให้ชุมชนบ้านดอนเกิดปัญหา และอยู่รวมกันได้อย่างสันติ)
        • ชุมชนเครือข่ายใกล้เคียง รวม 4 หมู่บ้าน ได้แก่ ชุมชนบ้านปิยะมิตร 3 ชุมชนบ้านดอน ชุมชนบ้านเหมือง และชุมชนบ้านศรีนครชัย มีการประชุมร่วมกันทุกวันที่ 8 ของเดือน เพื่อหารือเกี่ยวกับ การจัดการน้ำ การทำเกษตร และกองทุนต่างๆ ร่วมกัน

คะแนนเต็ม 5 / 5. จำนวนผู้โหวต : 1

ยังไม่มีคะแนนโหวต! เป็นคนแรกที่ให้คะแนนโพสต์นี้