นโยบายคุกกี้ (Cookies Policy)
โดยคุกกี้ที่ใช้ในการจัดเก็บ จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- Session Cookies เป็นคุกกี้ที่จะอยู่ชั่วคราว เพื่อจดจำท่านในระหว่างที่ท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ เช่น เฝ้าติดตามภาษาที่ท่านได้ตั้งค่าและเลือกใช้ เป็นต้น และจะมีการลบออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ของท่าน เมื่อท่านออกจากเว็บไซต์หรือได้ทำการปิดเว็บเบราว์เซอร์
- Persistent Cookieเป็นคุกกี้ที่จะอยู่ตามระยะเวลาที่กำหนดหรือจนกว่าท่านจะลบออก คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์จดจำท่าน และการตั้งค่าต่าง ๆ ของท่านเมื่อท่านกลับมาใช้บริการเว็บไซต์อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยให้ท่านเข้าใช้บริการเว็บไซต์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
ซึ่งการใช้คุ้กกี้จะมีวัตถุประสงค์เพื่อการ ดังต่อไปนี้
- คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies) เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของเว็บไซต์ที่มีความจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
- คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies) เพื่อให้ทราบถึงปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้บริการเว็บไซต์ รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ และยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่าข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้
- คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies) เพื่อจดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่น ช่วยจดจำชื่อบัญชีผู้ใช้งานของท่าน หรือจดจำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าขนาดฟอนต์หรือการตั้งค่าต่าง ๆ ของหน้าเพจ ซึ่งท่านสามารถปรับแต่งได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์
- คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies) ซึ่งเกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม โดยเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์นี้ ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์นี้แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ที่ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน
บริการหรือเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์นี้ อาจมีการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียอื่น รวมถึงอาจมีการฝังเนื้อหาหรือวีดีโอที่มาจากโซเชียลมีเดีย เช่น YouTube หรือ Facebook เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ท่านเข้าถึงเนื้อหาและสร้างการปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นบนโซเชียลมีเดียจากเว็บไซต์นี้ได้ ซึ่งเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียอืนจะมีการกำหนดและตั้งค่าคุกกี้ขึ้นมาเอง โดยที่ไม่สามารถควบคุมหรือรับผิดชอบต่อคุกกี้เหล่านั้นได้ และขอแนะนำให้ท่านควรเข้าไปอ่านและศึกษานโยบายหรือประกาศการใช้คุกกี้เหล่านั้นด้วย
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ กลไก รวมถึงมาตรการกำกับดูแลเกี่ยวกับการรวบรวม จัดเก็บ ใช้ หรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับใช้ในการดำเนินงานภายในมูลนิธิให้สอดคล้องพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒
๑.คำนิยาม “มูลนิธิ” หมายความว่า มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ “บุคคล” หมายความว่า บุคคลธรรมดา “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ “ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่กฎหมายกำหนด
๒.แหล่งที่มาและการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล มูลนิธิอาจได้ข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการเก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงหรือโดยอ้อมก็ตาม ซึ่งได้มาจากการใช้บริการ การให้บริการ การเข้าร่วมกิจกรรม หรือการปฏิบัติงานตามภารกิจของมูลนิธิ
- ๒.๑ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บ่งชี้ตัวตน เช่น ชื่อ นามสกุล หน่วยงานที่สังกัดอยู่ อีเมล์ หมายเลขโทรศัพท์ สถานที่ติดต่อ ชื่อบัญชีสำหรับการติดต่อสื่อสารในเครือข่ายสังคมออนไลน์ ภาพถ่าย ทั้งนี้รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำงานและการศึกษา ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว และข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลในครอบครัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นด้วย
- ๒.๒ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ เป็นข้อมูลทางเทคนิคซึ่งถูกจัดเก็บโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะผ่านทางการใช้คุกกี้ (Cookies) เว็บบีคอน (Web beacons) และไฟล์ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (log files) หรือข้อมูลอื่นใด รวมถึง
- ข้อมูลการตั้งค่า (Configuration Information) ที่ถูกกำหนดขึ้นโดยเว็บเบราว์เซอร์ หรือโปรแกรมอื่นใดที่ได้ใช้เพื่อเข้าสู่บริการรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ของมูลนิธิ รวมถึง IP Address, เวอร์ชั่นและหมายเลขเครื่องของอุปกรณ์สื่อสาร
- ข้อมูลที่ได้จากการค้นหาหรือตรวจดูในขณะที่ใช้บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ของมูลนิธิ เช่น ข้อความที่ใช้ในการค้นหา รายละเอียดของข้อมูลต่าง ๆ และเนื้อหาที่เข้าถึง
๓.วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิเก็บรวบรวมจะนำไปใช้ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามกรอบวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
- ๓.๑ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานตามภารกิจของมูลนิธิ ซึ่งกำหนดไว้ในวัตถุประสงค์การจัดตั้งมูลนิธิตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งมูลนิธิสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๖๒ หรือกฎหมายอื่น ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของมูลนิธิและให้อำนาจแก่มูลนิธิในการดำเนินการ
- ๓.๒ เพื่อให้มูลนิธิและคู่สัญญาสามารถปฏิบัติตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ได้
- ๓.๓ เพื่อใช้ในบริการหรือกิจกรรมที่กฎหมายกำหนดให้ขอความยินยอมจากเข้าของข้อมูลส่วนบุคคล และเจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมอย่างชัดแจ้งแล้ว
- ๓.๔ เพื่อใช้ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น การส่งรายชื่อและข้อมูลการติดต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอกของมูลนิธิให้แก่สำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อทำการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของมูลนิธิ , การติดกล้อง CCTV ภายในพื้นที่ทำการของมูลนิธิเพื่อการรักษาความปลอดภัย , การปฏิบัติตามคำสั่งศาล , การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐
- ๓.๕ เพื่อใช้ในการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
- ๓.๖ เพื่อใช้ในการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ การทำจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ การศึกษาวิจัย และการจัดทำสถิติ
๔.การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล มูลนิธิจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยกระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคลหรือชุดข้อมูล ส่วนบุคคล ไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติ เช่น
- การเก็บ บันทึก จัดระบบ จัดโครงสร้าง เก็บรักษา เปลี่ยนแปลง หรือปรับเปลี่ยน
- การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดซึ่งทำให้เกิดความพร้อมใช้งาน
- การจัดวางหรือผสมเข้าด้วยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลาย
ทั้งนี้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและที่กำหนดไว้ในคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ตามบริบทของการใช้บริการ การเข้าร่วมกิจกรรม หรือการปฏิบัติงานตามภารกิจของมูลนิธินั้น ในกรณีที่มูลนิธิมีความประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการอื่นนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้แจ้งไว้ มูลนิธิจะดำเนินการแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวทราบและให้ความยินยอมอย่างชัดแจ้ง ก่อนที่จะดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
๕.การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล มูลนิธิจะดำเนินการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนด เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่มีสิทธิสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และเป็นการป้องกันมิให้ข้อมูลส่วนบุคคลสูญหาย หรือมีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อใช้ ทำลาย เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ มูลนิธิจะดำเนินการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาที่กฎหมายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นกำหนดไว้ หรือตามที่กำหนดไว้ในคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ตามบริบทของการใช้บริการ การเข้าร่วมกิจกรรม หรือการปฏิบัติงานตามภารกิจของมูลนิธินั้น
๖.สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้
- ๖.๑ สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไว้แก่มูลนิธิได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของตนอยู่ภายใต้การดูแลของมูลนิธิ ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไว้แล้ว อย่างไรก็ดี สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีข้อจำกัดสิทธิได้ หากมูลนิธิใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยฐานกฎหมายหรือฐานสัญญา
- ๖.๒ สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right of access) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตน และขอให้มูลนิธิทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงขอให้มูลนิธิเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอมต่อมูลนิธิได้
- ๖.๓ สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (right to rectification) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้มูลนิธิแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สมบูรณ์
- ๖.๔ สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (right to erasure) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอให้มูลนิธิทำการลบข้อมูลส่วนบุคคลของตนด้วยเหตุบางประการได้
- ๖.๕ สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (right to restriction of processing) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนด้วยเหตุบางประการได้
- ๖.๖ สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (right to data portability) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิให้มูลนิธิโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ไว้กับมูลนิธิไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเองด้วยเหตุบางประการได้
- ๖.๗ สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (right to object) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของตนด้วยเหตุบางประการได้
๗.การใช้คุ้กกี้ (Cookies) การใช้บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ของมูลนิธิ อาจมีการใช้คุ้กกี้หรือเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกัน เพื่อเพิ่มมาตรการด้านความมั่นคงปลอดภัย และสามารถรักษาค่าการใช้งาน (session) เมื่อมีการใช้บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ของมูลนิธิ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลเกี่ยวกับเบราว์เซอร์และการตั้งค่าของ ผู้ที่เข้าใช้บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ของมูลนิธิด้วย ซึ่งผู้ที่เข้าใช้บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ของมูลนิธิสามารถที่จะยอมรับหรือไม่ยอมรับคุกกี้ก็ได้ โดยสามารถตั้งค่าหรือลบการใช้งานคุกกี้ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser)
๘.การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มูลนิธิมีสิทธิที่จะพิจารณาดำเนินการการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ เพื่อให้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยมูลนิธิจะทำการแจ้งให้ทราบผ่านทางเว็บไซต์ของมูลนิธิหรือช่องทางอื่นใด ที่มูลนิธิเห็นสมควร
๙.ช่องทางการติดต่อ มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่อยู่ : เลขที่ ๙๐๑ อาคารสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) ชั้น ๖ ถนนงามวงศ์งาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ๑๐๙๐๐ หมายเลขโทรศัพท์ : ๐ ๒๑๕๘ ๐๙๙๙ หมายเลขโทรสาร : ๐ ๒๑๕๘ ๐๙๙๘ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ : admin@utokapat.org
คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)
มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ อพ. ขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า www.utokapat.org จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารการปฏิบัติงานตามภารกิจของ อพ. ให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมการปฏิบัติงานได้
โดยการใช้บริการเว็บไซต์ดังกล่าวมีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ได้แก่ Cookie data, IP address, Browsing history ซึ่งไม่มีกำหนดระยะเวลาในการจัดเก็บ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำสถิติการเข้าชมเว็บไซต์ ในกรณีที่ท่านเข้าใช้บริการเกี่ยวกับการรับฟังความคิดเห็น หรือการร้องเรียนการทุจริตและประพฤติ มิชอบ จะมีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล บริษัท/หน่วยงาน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ และสถานที่ติดต่อ ซึ่ง อพ. จะจัดเก็บข้อมูลตามระยะเวลาดำเนินการ เพื่อใช้สำหรับติดต่อสื่อสารหรือประสานงานเกี่ยวกับปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติงานหรือการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
ในกรณีที่ท่านเข้าใช้บริการเกี่ยวกับการรับฟังความคิดเห็น หรือการร้องเรียนการทุจริตและประพฤติ มิชอบ จะมีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล บริษัท/หน่วยงาน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ และสถานที่ติดต่อ ซึ่ง อพ. จะจัดเก็บข้อมูลตามระยะเวลาดำเนินการ เพื่อใช้สำหรับติดต่อสื่อสารหรือประสานงานเกี่ยวกับปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติงานหรือการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังกล่าว อพ. จะดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้แล้วเท่านั้น กรณีที่ อพ. จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการอื่นนอกเหนือจากที่ได้แจ้งไว้ อพ. จะดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบและให้ความยินยอมอย่างชัดแจ้งก่อนที่จะดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
ทั้งนี้ ท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้ตามที่ อพ. ประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไว้