สำรวจ JWC รอบตัดสิน ร.ร.อยุธยาวิทยาลัย จ.พระนครศรีอยุธยา

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมการเสริมสร้างและสนับสนุนความเข้าใจในการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ลงพื้นที่สำรวจโครงการถังดักไขมันเตือนให้ตักรักษ์น้ำ โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่ผ่านเข้าสู่รอบตัดสินโครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ ปี 2562

โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินโครงการถังดักไขมันเตือนให้ตักรักษ์น้ำ โดยนักเรียนในโรงเรียนมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาและบำบัดน้ำในโรงเรียน รวมถึงเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับแนวพระราชดำริในการแก้ไขและบรรเทาน้ำเสียภายในโรงเรียนผ่านกิจกรรมวันสัปดาห์วิทยาศาสตร์ เสียงตามสาย รายการวิทยุและแฟนเพจเฟสบุ๊ครักษ์สิ่งแวดล้อม โดยได้แนวคิดมาจากปัญหาขยะมูลฝอยในแหล่งน้ำภายในโรงเรียนและการกำจัดไขมันจากการล้างภาชนะของศูนย์อาหาร ส่งผลทำให้น้ำเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็น เป็นแหล่งเพราะพันธุ์เชื้อโรคและสภาพแวดล้อมบริเวณใกล้เคียงเสื่อมโทรม

การดำเนินงานปรับปรุงคุณภาพภายในโรงเรียนของกลุ่มเยาวชนโครงการถังดักไขมันเตือนให้ตักรักษ์น้ำ ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของการทำงานร่วมกันของเยาวชน โดยมีคณะครู โรงเรียน และหน่วยงานภายนอกให้การสนับสนุน ซึ่งการดำเนินงานโครงการถังดักไขมันเตือนให้ตักรักษ์น้ำ ถือเป็นส่วนหนึ่งของห้องเรียนวิทยาศาสตร์ที่ให้นักเรียนได้นำความรู้มาประยุกต์ในพื้นที่จริงได้อีกด้วย
สำรวจ JWC รอบตัดสิน ร.ร.ท่าเรือ “นิตยานุกูล” จ.พระนครศรีอยุธยา

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมการเสริมสร้างและสนับสนุนความเข้าใจในการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ลงพื้นที่สำรวจโครงการ NK รักษ์น้ำ 2562 โรงเรียนท่าเรือ “นิตยานุกูล” จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่ผ่านเข้าสู่รอบตัดสินโครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ ปี 2562

โรงเรียนท่าเรือ “นิตยานุกูล” อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินโครงการ NK รักษ์น้ำ 2562 เพื่อฟื้นฟูคุณภาพน้ำในบ่อน้ำของโรงเรียนและปรับภูมิทัศน์รอบบ่อให้ดีขึ้น โดยได้แนวคิดมาจากความต้องการที่จะปรับสภาพน้ำในบ่อของโรงเรียนที่เดิมมีกลิ่นเหม็น และมีขยะลอยอยู่ในบ่อน้ำเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ปลาและสิ่งมีชีวิตที่อาศัยในบ่อตายเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังเป็นการทำลายบรรยากาศบริเวณรอบบ่อน้ำ ทำให้นักเรียนไม่สามารถใช้บริเวณรอบบ่อน้ำเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจและทำกิจกรรมได้

การดำเนินงานปรับปรุงคุณภาพภายในโรงเรียนของกลุ่มเยาวชนโครงการ NK รักษ์น้ำ 2562 ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของการทำงานร่วมกันของเยาวชนที่เริ่มปรับปรุงคุณภาพน้ำในพื้นที่ใกล้ตัว โดยมีคุณครูและโรงเรียนให้การสนับสนุน ซึ่งการดำเนินงานโครงการ NK รักษ์น้ำ 2562 ถือเป็นส่วนหนึ่งของห้องเรียนวิทยาศาสตร์ที่ให้นักเรียนได้นำความรู้มาประยุกต์ในพื้นที่จริงได้อีกด้วย
สำรวจ JWC รอบตัดสิน กลุ่มเยาวชนพนาดร/กลุ่มบริหารจัดการน้ำชุมชนทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมการเสริมสร้างและสนับสนุนความเข้าใจในการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ลงพื้นที่สำรวจโครงการจากภูผาสู่มหานที พี่นำน้องรักษาป่าต้นน้ำ โดยกลุ่มเยาวชนพนาดร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ผ่านเข้าสู่รอบตัดสินโครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ ปี 2562

กลุ่มเยาวชนพนาดร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ดำเนินโครงการจากภูผาสู่มหานที พี่นำน้องรักษาป่าต้นน้ำ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับเยาวชนในเรื่องระบบนิเวศป่าต้นน้ำรวมถึงการทำฝายชะลอน้ำแบบผสมผสาน โดยใช้วัสดุธรรมชาติในพื้นที่เป็นหลัก อีกทั้งเพิ่มพันธุ์กล้าไม้ท้องถิ่น โดยมีแนวคิดที่จะช่วยบรรเทาปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าและทำการเกษตรเชิงเดี่ยว ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาการชะล้างและหน้าดินพังทลาย ส่งผลให้ในช่วงฤดูแล้งน้ำในลำห้วยเหือดแห้ง และในช่วงฤดูฝน มีปริมาณน้ำมากจนก่อให้เกิดปัญหาน้ำหลาก
การดำเนินโครงการจากภูผาสู่มหานที พี่นำน้องรักษาป่าต้นน้ำ เป็นตัวอย่างหนึ่งของการทำงานของกลุ่มเยาวชนที่มีชุมชนเป็นพี่เลี้ยงและได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานท้องถิ่น ท้องที่ ที่ร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในชุมชน สร้างความรู้สึกรักและหวงแหนป่าไม้และระบบนิเวศของบ้านเกิด รวมถึงเป็นการเพิ่มปริมาณของต้นไม้ในป่าต้นน้ำอีกด้วย
สำรวจ JWC รอบตัดสิน กลุ่ม “จิตอาสารักษ์ภูมิปัญญาซั้ง รักษาสายน้ำ ตำบลท่าข้าม” จ.สงขลา

เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการเสริมสร้างและสนับสนุนความเข้าใจในการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ลงพื้นที่สำรวจโครงการเด็กและเยาวชนรักษ์น้ำสืบสานภูมิปัญญา “ซั้ง” ต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ผ่านเข้าสู่รอบตัดสินโครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ ปี 2562

กลุ่ม “จิตอาสารักษ์ภูมิปัญญาซั้ง รักษาสายน้ำ ตำบลท่าข้าม” ดำเนินโครงการเด็กและเยาวชนรักษ์น้ำสืบสานภูมิปัญญา “ซั้ง” เพื่อสืบทอดภูมิปัญญาการทำซั้งในการกักน้ำ และดูแลรักษาสายน้ำลำคลองให้สะอาด โดยได้แนวคิดมาจากเสียงสะท้อนของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ที่ต้องการให้มีแหล่งน้ำได้เล่นอย่างเช่นในอดีต ซึ่งปัจจุบันแหล่งน้ำต่างๆได้หายไปพร้อมกับความสนุกในวัยเด็ก…

การดำเนินโครงการเด็กและเยาวชนรักษ์น้ำสืบสานภูมิปัญญา “ซั้ง” เป็นตัวอย่างหนึ่งของการทำงานร่วมกันของเยาวชนที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น โดยมีหน่วยงานท้องถิ่น ท้องที่ มาช่วยเป็นพี่เลี้ยง เพื่อให้เยาวชนและชุมชนตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำ รวมถึงเกิดการหวงแหนรักษาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นอีกด้วย
สำรวจ JWC รอบตัดสิน กลุ่มลังกาสุกะ/วิทยาลัยชุมชนปัตตานี จ.ปัตตานี

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563 คณะกรรมการเสริมสร้างและสนับสนุนความเข้าใจในการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ลงพื้นที่สำรวจโครงการซั้งปลา: ภูมิปัญญาเพื่อการอนุรักษ์ป่าและน้ำ ณ หมู่บ้านตันหยงเปาว์ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ผ่านเข้าสู่รอบตัดสินโครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ ปี 2562

กลุ่มลังกาสุกะ วิทยาลัยชุมชนปัตตานี ดำเนินโครงการซั้งปลา: ภูมิปัญญาเพื่อการอนุรักษ์ป่าและน้ำ เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศน์และที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งทะเลให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ โดยได้แนวคิดมาจากการลงสำรวจพื้นที่ชุมชนตันหยงเปาว์ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งนำภูมิปัญญาชาวบ้านในเรื่องการทำซั้งมาประยุกต์ใช้กับโครงการ

การดำเนินโครงการซั้งปลา: ภูมิปัญญาเพื่อการอนุรักษ์ป่าและน้ำ เป็นตัวอย่างหนึ่งของการทำงานร่วมกันระหว่างชุมชนกับเยาวชน รวมทั้งหน่วยงานท้องถิ่น ท้องที่ เพื่อช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งทะเลของไทยต่อไป
สำรวจ JWC รอบตัดสิน ร.ร.ราชประชานุเคราะห์ 47 จ.เพชรบุรี

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา คณะกรรมการเสริมสร้างและสนับสนุนความเข้าใจในการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ลงพื้นที่สำรวจโครงการพัฒนาแหล่งบำบัดน้ำเสียแบบยั่งยืน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 47 จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่ผ่านเข้าสู่รอบตัดสินโครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ ปี 2563
โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 47 จ.เพชรบุรี ดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งบำบัดน้ำเสียแบบยั่งยืน เพื่อบำบัดน้ำและนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ โดยได้แนวคิดมาจากการไปศึกษาดูงาน ณ โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ซึ่งนำวิธีการบำบัดน้ำเสียมาประยุกต์ใช้กับโรงเรียน น้ำเสียจากสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โรงครัว โรงล้างถาด หอพัก ห้องน้ำ จะถูกนำมาบำบัด แล้วนำกลับไปใช้ในการเกษตรของโรงเรียน ทั้งนี้ ก่อนการนำน้ำกลับไปใช้ก็มีการตรวจสอบคุณภาพน้ำ เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำที่นำกลับมาใช้นี้มีคุณภาพเหมาะสมที่จะใช้ในการอุปโภคและการเกษตรต่อไป
ประกาศผล JWC 62 รอบตัดสิน
ขอแสดงความยินดีกับกลุ่มเยาวชนทั้ง 13 กลุ่ม ที่ผ่านเข้าสู่รอบตัดสิน โครงการ “พี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ ปี 2562” สำหรับกลุ่มที่ไม่ผ่านการคัดเลือก มูลนิธิฯ จะส่งรายละเอียดเพื่อเป็นประโยชน์ในการนำเสนอโครงการในปี 2563 ต่อไป และขอส่งกำลังใจให้กับทุกทีมด้วยนะคะ

พี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ ปี 62
วันที่ 1-4 ต.ค. 2562 มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ ร่วมกับ สสน. จัดงานโครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำตามแนวพระราชดำริ ปี 2562 ที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครนายก จ.นครนายก ซึ่งในปีนี้มีกลุ่มเยาวชนผ่านการคัดเลือกเข้าสู่ค่ายประเมิน 27 กลุ่มจากทั่วประเทศ เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนเยาวชนและได้เรียนรู้เรื่องการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ เพื่อเป็นเครื่องมือในการทำโครงการให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นต่อไป
โครงการ “พี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ พ.ศ. 2561”
วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในพิธีประกาศผลการประกวดโครงการ “พี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ พ.ศ. 2561” ณ ห้องประชุมฟ้าคราม ริมขอบฟ้ารีสอร์ท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมีคณะครูและเยาวชนที่ผ่านเข้ารอบตัดสิน รวมทั้งผู้แทนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ร่วมงานกว่า 100 คน
โครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ ได้รับโครงการดังกล่าวมาดำเนินงานภายใต้มูลนิธิฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เยาวชนตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำ และน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ไปปรับใช้ในการจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่กลุ่มเยาวชน ในปี พ.ศ. 2561 มีกลุ่มเยาวชนจากทั่วประเทศส่งโครงการเข้าร่วมการประกวดพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ จำนวน 56 กลุ่ม และผ่านการคัดเลือกจำนวน 31 กลุ่ม จากนั้น คณะกรรมการตัดสินได้พิจารณาคัดเลือกกลุ่มเยาวชนที่ผ่านการประเมินเข้าสู่รอบตัดสินจำนวน 11 กลุ่ม ได้แก่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง โรงเรียนนาหลวง โรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ โรงเรียนทุ่งกว๋าววิทยาคม โรงเรียนสาธิตเทศบาลบ้านเชตวัน กลุ่มเยาวชนละอ่อนฮักป่าบ้านป่าเลา กลุ่มเยาวชนหัวใจสีเขียว โรงเรียนกมลาไสย โรงเรียนกุดขอนแก่นวิทยาคม โรงเรียนคีรีราษฎร์พัฒนา และวิทยาลัยชุมชนสตูล
ซึ่งคณะกรรมการตัดสินได้ลงพื้นที่เพื่อพิจารณาการดำเนินงานและให้ข้อเสนอแนะแก่กลุ่มเยาวชนทั้ง 11 กลุ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การจัดกิจกรรมค่ายรอบตัดสินซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 เมษายน – 2 พฤษภาคม 2562 นี้ ได้รับความร่วมมือและสนับสนุนเป็นอย่างดีจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ได้แก่ กรมการพัฒนาชุมชน กรมชลประทาน กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อการประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) มูลนิธิโคคา-โคลา ประเทศไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด โฆษะกรุ๊ป บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์แนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) บริษัท ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด มูลนิธิกรุงเทพประกันภัย และบริษัท เมืองโบราณ จำกัดผลการตัดสิน มีดังนี้
รางวัลชมเชย ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 5,000 บาท และเกียรติบัตร จำนวน 8 รางวัล ได้แก่
1. โรงเรียนสาธิตเทศบาลบ้านเชตวัน จังหวัดแพร่ ชื่อโครงการ “ศาสตร์พระราชานำพาคนแพร่แก้ปัญหาคุณภาพน้ำอย่างยั่งยืน”
2. วิทยาลัยชุมชนสตูล จังหวัดสตูล ชื่อโครงการ “เยาวชนร่วมใจรักษ์น้ำ รักษ์ป่าชายเลน”
3. โรงเรียนกุดขอนแก่นวิทยาคม จังหวัดขอนแก่น ชื่อโครงการ “อนุรักษ์ป่าชุมชนลุ่มน้ำเชิญ”
4. โรงเรียนคีรีราษฎร์พัฒนา จังหวัดนครศรีธรรมราช ชื่อโครงการ “รักษ์ป่าต้นน้ำปากพนังอย่างยั่งยืน”
5. โรงเรียนนาหลวง กรุงเทพมหานคร ชื่อโครงการ “ธรรมชาติบำบัดตามแนวปฏิบัติพ่อหลวงปี 3”
6. มหาวิทยาลัยรามคำแหง กรุงเทพมหานคร ชื่อโครงการ “รามฯ รักษ์ป่า ร่วมใจ สร้างฝายถวายในหลวง”
7. โรงเรียนสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ กรุงเทพมหานคร ชื่อโครงการ “จัดการน้ำตามแนวพระราชดำริ”
8. กลุ่มเยาวชนหัวใจสีเขียว ชุมชนแม่จั๊วะ จังหวัดแพร่ ชื่อโครงการ “กลุ่มเยาวชนหัวใจสีเขียว”
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 10,000 บาท และเกียรติบัตร จำนวน 1 รางวัลได้แก่
กลุ่มเยาวชนละอ่อนฮักป่าบ้านป่าเลา จังหวัดแพร่ ชื่อโครงการ “กลุ่มเยาวชนละอ่อนฮักป่าบ้านป่าเลา”
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับ เงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท เกียรติบัตร และโล่รางวัลจากมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
ได้แก่ โรงเรียนทุ่งกว๋าววิทยาคม จังหวัดลำปาง ชื่อโครงการ “ทุ่งกว๋าวร่วมใจ จัดการน้ำตามแนวพระราชดำริ ร่วมกันพัฒนาชุมชน” ดำเนินงานด้านการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ โดยแลกเปลี่ยน วิเคราะห์สภาพปัญหาและหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกับชุมชนและปราชญ์ชาวบ้าน จัดทำแผนที่น้ำ วิเคราะห์การไหลของน้ำ มีการใช้ภาพถ่ายดาวเทียม และใช้ GPS ในการจัดทำแผนที่แสดงตำแหน่งการสร้างฝายชะลอความชุ่มชื้นและเส้นทางน้ำ รวมทั้งฟื้นฟูป่าด้วยการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง เพาะขยายพันธุ์กล้าไม้ และสร้างความเข้าใจร่วมกับชุมชนในการกำหนด กติกา การใช้ประโยชน์ของป่าชุมชนบ้านป่าเวียง
รางวัลชนะเลิศ ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท เกียรติบัตร และโล่รางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ได้แก่ โรงเรียนกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ชื่อโครงการ “สร้างป่าเปียกด้วยฝาย สร้างรายได้สู่ชุมชน”
ดำเนินโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำดงนามนซึ่งเป็นเขตพื้นที่ป่าชุมชน ซึ่งเดิมกลุ่มเยาวชนโรงเรียน กมลาไสยเคยดำเนินงานในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่มีพื้นที่จำนวนมากจนเกินกำลังของเยาวชนในการพัฒนาฟื้นฟู จึงได้มีการปรับขนาดพื้นที่ลงให้เหมาะสมกับการทำงานของเยาวชน โดยยึดหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ว่า “คิดใหญ่ ทำเล็ก” มีการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้เรื่องการจัดการทรัพยากรน้ำระหว่างโรงเรียนและชุมชน มีโครงการต้นแบบในการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ และมีพื้นที่ต้นแบบในการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำอย่างชัดเจน
การดำเนินงานโครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 – 2561 ส่งผลให้มีกลุ่มเยาวชนผ่านเข้ารอบการประเมินโครงการทั่วประเทศ 291 กลุ่ม หรือประมาณ 1,700 คน นอกจากนี้ ยังเกิดความร่วมมือในการดำเนินงานระหว่างเยาวชน ชุมชน และโครงการต่างๆ ที่กลุ่มเยาวชนร่วมมือกับหลายหน่วยงาน นับได้ว่า โครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ เป็นโครงการที่ส่งเสริมให้เยาวชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำ และน้อมนำแนวพระราชดำริ ไปปรับใช้ในการจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ของกลุ่มเยาวชนได้อย่างเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง